เมนู

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มากด้วยอภิชฌา
มีใจสหรคตด้วยอภิชฌาอยู่ เป็นผู้รีบความพยาบาท มีจิตสหรคตด้วยความ
พยาบาทอยู่. เป็นผู้มีความเบียดเบียน มีจิตสหรคตด้วยความเบียดเบียนอยู่
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลเสพ จิตตุปบาท แบบนี้ อกุศลธรรมทั้ง
หลายจะเจริญขึ้น แต่กุศลธรรมทั้งหลายกลับเสื่อมลง

จิตตุปบาทที่เป็นเหตุให้อกุศลธรรมเสื่อม แต่กุศลธรรมเจริญ



[211] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลเสพ จิตตุปบาท แบบ
ไหน อกุศลธรรมทั้งหลายจะเสื่อมลง แต่กุศลธรรมทั้งหลายกลับเจริญขึ้น
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่เป็นผู้มากไปด้วย
อภิซฌา มีใจไม่สหรคตด้วยอภิชฌาอยู่ เป็นผู้ไม่พยาบาท มีจิตสหรคต
ด้วยความไม่พยาบาทอยู่ เป็นผู้ไม่เบียดเบียน มีจิตสหรคตด้วยความไม่เบียด
เบียนอยู่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลเสพ จิตตุปบาท แบบนี้
อกุศลธรรมทั้ง หลายจะเสื่อมลง แต่กุศลธรรมทั้งหลายกลับเจริญขึ้น
ข้อที่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้อย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราตถาคตกล่าว จิตตุปบาท ไว้ 2 อย่างคือ ที่ควรเสพอย่าง 1 ที่ไม่ควร
เสพอย่าง 1 และทั้งสองอย่างนั้น แต่ละอย่างก็เป็นจิตตุปบาทด้วยกัน พระผู้-
มีพระภาคเจ้า
ทรงอาศัยข้อความนี้ จึงได้ตรัสไว้อย่างนี้.

เรื่องที่ควรเสพและไม่ควรเสพ ข้อที่ 5



[212] ก็แล ข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้อย่างนี้ว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตกล่าว การกลับได้สัญญา ไว้ 2 อย่าง คือ ที่
ควรเสพอย่าง 1 ที่ไม่ควรเสพอย่าง 1 ทั้งสองอย่างนั้น แต่ละอย่างก็เป็น การ
กลับได้สัญญา
ด้วยกัน พระองค์ทรงอาศัยอะไรจึงตรัสไว้.